สองตอนที่ผ่านมาเล่าถึงการท่องเที่ยวในวันที่2ของทริปญี่ปุ่น หลังจากเที่ยวมาตลอดทั้งวันแล้วมาจบที่การกินซูชิร้าน Midori ในย่าน Shibuya ผมและภรรยามีเหตุให้ต้องกลับไปที่ร้าน Blue Bottle Coffee อีกครั้งสาเหตุเพราะนึกขึ้นได้ว่าลืมของครับ!!!
กระเป๋าตังค์
ก่อนอื่นต้องย้อนไปตอนเช้าที่เราไปกินราเมนกันที่ร้านตรงข้ามโรงแรม ช่วงกำลังจะจ่ายเงินน้องของเราคนนึงนึกว่าลืมเอากระเป๋าตังค์มาจากห้องจึงยืมคนอื่นจ่ายไปก่อนแล้วกลับไปหาที่ห้องอีกครั้ง ปรากฏว่าหาไม่พบครับ
สุดท้ายจึงกลับมาถามที่ร้านราเมนอีกครั้งก็พบว่าหล่นอยู่ในร้านครับซึ่งทางพนักงานก็เก็บเอาไว้ให้อย่างดี
กระเป๋าใหม่
กลับมาที่ช่วงบ่ายหลังจากที่เราช้อปปิ้งกันที่ Takeshita Street คุณภรรยาซื้อกระเป๋ามาใบหนึ่งแล้วเราก็มานั่งกันที่ร้าน Blue Bottle และเนื่องจากคนเยอะเราจึงต้องนั่งกระจายกันก็ทำให้ดูข้าวของกันตกหล่น มานึกขึ้นได้อีกทีตอนกำลังจะถึงคิวกินซูชิครับ
จากประสบการณ์ของน้องในช่วงเช้าทำให้เรายังมั่นใจได้ระดับหนึ่ง เราจึงไปนั่งกินซูชิกันก่อนแล้วจึงจะค่อยกลับไปดูที่ร้านกาแฟครับ
ก็ปรากฏว่าเป็นอย่างที่เราคิดครับ เมื่อเรากลับไปถึงร้านกาแฟ แจ้งพนักงานที่ร้านว่าเราลืมกระเป๋าไว้ (เราเตรียมรูปถ่ายไว้สำหรับยืนยันกับทางร้าน) ซึ่งทางร้านก็ไปนำมาให้จากหลังร้าน โดยไม่ได้เรียกดูอะไรครับ
ข้อคิดที่ได้
1)เป็นประสบการณ์ให้เราทราบว่าสังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ปลอดภัยและเราไว้วางใจได้ในระดับสูงครับ
2)แต่ยังไงก็ตามไปต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องระมัดระวังให้มากอยู่ดีครับ แม้ว่าเราจะต้องทำอะไรแข่งกับเวลาหรือจะเที่ยวจนเหนื่อย แต่ถ้าเกิดการสูญหาย ความสูญเสียก็ไม่ใช่น้อยครับ ในเคสนี้ทรัพย์สินในกระเป๋าตังค์ กับ กระเป๋าใหม่ทั้งใบ ก็น่าเสียดายอยู่นะครับ หรือกรณีอื่นๆเช่นเอกสารสำคัญ/passport ตั๋วรถ สินค้าที่ซื้อมาใหม่ๆก็ล้วนมีมูลค่าและมีความสำคัญทั้งสิ้นครับ

ตอนหน้ามาต่อวันที่ 3 ไปเที่ยว Tokyo Disneysea กันครับ