Careful Planning

caution
Careful planning puts you ahead in the long run; hurry and scurry puts you further behind. Proverbs 21:5 (MSG)

ช่วงนี้แถวบ้านเริ่มมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู
ซึ่งต้องมีการปิดถนนบางส่วน

วันนี้ขับผ่านช่วงกลางคืนมีกลุ่มคนงานเริ่มมาปิดถนน
ภาพที่เห็นคือแต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน
สองคนโบกรถ หนึ่งคนส่องไฟ สามคนเดินตั้งกรวยสี่ส้มยาวตลอดแนว
ส่วนที่เหลือปรับพื้นที่อยู่ตรงเกาะกลาง
คนที่เป็นเหมือนหัวหน้างานยืนสั่งงานพร้อมดูเอกสารไปด้วย…

แม้ว่างานนี้เป็นงานที่ต้องทำด้วยความรวดเร็วอยู่แล้วเพราะมีส่วนในการกีดขวาง
แต่เราสามารถมองเห็นถึงการวางแผนงานที่ชัดเจน
มีการวางแผนล่วงหน้าก่อนลงพื้นที่จริง แต่ละคนรู้หน้าที่และแยกกันไปทำ
งานเดินหน้าและไม่ติดขัด (ในเคสนี้การจราจรก็ไม่ติดขัดด้วย)

กลับกันลองคิดว่าสภาพจะเป็นยังไงถ้าทุกอย่างไปเริ่มกันในพื้นที่…
แล้วอย่าลืมคิดถึงงานของเราที่ต้องเจอกันทุกวันครับ…

การวางแผนที่ดีช่วยเรามุ่งไปข้างหน้า แต่ความรีบร้อนและลนลานฉุดเราไว้ข้างหลัง…

Advertisement

ตื่นอย่างไรให้สดชื่น

fox-1284512_1280

หลายคนอาจเคยได้ยิน กฎการนอนหลับ 90 นาที ซึ่งอธิบายว่าคนเราจะนอนหลับเป็น cycle ทั้งหลับลึก-หลับตื้น และการตื่นที่รอบ 90 นาทีพอดีจะช่วยให้สดชื่น วันนี้เลยเอาเครื่องมือมาให้ลองเล่นกันครับ

http://sleepcalculator.com/

ตัวคำนวณนี้จะช่วยบอกเราว่าถ้าเราจะตื่นเวลาใดๆในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เราควรจะนอนกี่โมง หรือ..

ถ้าเรานอนตอนนี้ เราควรจะตื่นกี่โมง เพื่อให้ตรง cycle และได้หลับตามทฤษฎีมากที่สุด

ทั้งนี้การจะนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่นั้น ควรจะนอนให้ได้อย่างน้อย 5 cycle ครับ

ชอบแบบตื่นเต้น

roulette-rules.jpg.pagespeed.ce.i7oLg-w-ks

“Investing should be more like watching paint dry or watching grass grow. If you want excitement, take $800 and go to Las Vegas.” – Paul Samuelson

ตลาดหุ้นวันนี้มี warrant ตัวหนึ่งทำราคาวิ่งร้อนแรงมาก โดยราคาของ warrant ตัวนี้ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมา 3 วันรวด ถ้าไปเช็คดูราคาของหุ้นแม่ซึ่ง warrant ตัวนี้อ้างอิงอยู่นั้น ราคาหุ้นแม่แทบไม่ขยับเลย พอไปเช็คข่าว ก็ไม่มีอะไรพิเศษ ดูไปดูมาจึงรู้ว่า warrant ตัวนี้ใกล้หมดอายุ จึงมีการเข้ามาซิ่งกันมากเป็นพิเศษ

ประเด็นก็คือว่ามีคนจำนวนมากที่เห็นหุ้นแบบนี้แล้ววิ่งเข้าใส่แบบไม่ดูข้อมูล ไม่มีแผนการรองรับ จังหวะที่ได้กำไรตามน้ำก็ยังพอได้อยู่ และได้ความตื่นเต้นด้วย แต่หารู้ไม่คือต้องรับความเสี่ยงจากการเก็งกำไรไปเต็มๆ

การลงทุนมีความเสี่ยง และ Paul Samuelson ชี้ให้เราเห็นอีกมุมหนึ่งว่าการลงทุนให้งอกเงยนั้นควรอดทนและใจเย็น บอกว่า ลงทุนต้องใจเย็นๆ ถ้าอยากตื่นเต้น ถือเงินไปบ่อนดีกว่า…

ขอบคุณ quote จาก
The Top 17 Investing Quotes of All Time

ลุ้นตลอด

yes-no
นอกเหนือจากงานประจำที่ทำอยู่แล้ว ผมมีช่วยงานที่บ้านอยู่อีกอย่าง
ซึ่งจะต้องใช้โปรแกรม remote เข้าไปทำในอีกเครื่องหนึ่งซึ่งอยู่ที่ออฟฟิศ
มีอยู่หลายครั้งที่พอจะ remote ทำงานแล้วเข้าไปทำไม่ได้
เช่นไฟดับบ้าง ออฟฟิศเผลอปิดเครื่องบ้าง ลืมเปิดโปรแกรมบ้าง ฯลฯ
ซึ่งถ้าวันไหน remote ไม่ได้ วันนั้นก็เหมือนได้พักไป
(งานมีกำหนดเวลาแต่ไม่ได้เร่งมาก)

สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่าทุกครั้งที่เปิดโปรแกรมแล้วรอมันโหลดทีไร…
จะมีอีกใจที่แอบลุ้นอยู่ตลอดว่ามันจะเปิดไม่ได้ (จะได้พักผ่อน)

+++++++++++++++++++++++++++

ถ้าเรานัดประชุมคุยงานกัน แล้วก็ล่มประจำ
ครั้งถัดๆไปก็จะมีคนลุ้นว่ามันจะล่มอีกไหม

ถ้าเราบอกว่าวันนี้อากาศไม่ดีไม่ออกกำลังละกัน
วันถัดๆไปเราก็จะลุ้นว่าอากาศจะไม่ดีอีกหรือเปล่า

ถ้าผมตั้งใจจะเขียน blog ทุกวันแล้ววันนึงไม่เขียน
ต่อไปก็จะมีเหตุให้ไม่ได้เขียนอีก

ถ้ามีคนทำผิดแล้วไม่ได้รับการตักเตือน
ครั้งถัดๆไปเขาก็จะลุ้นอีกว่าทำผิดไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

+++++++++++++++++++++++++++

เพื่อบรรลุผลสำเร็จ ความสม่ำเสมอนั้นสำคัญ
ทำอย่างสม่ำเสมอดีกว่า อย่าให้ลุ้นตลอดเลย…

อาทิตย์หน้า

lazy2
เมื่อไรจะเริ่มออกกำลังกาย                       …อาทิตย์หน้า
เมื่อไรจะเริ่มจัดระเบียบบ้าน                      …อาทิตย์หน้า
เมื่อไรจะจัดการกับ list ลูกค้า                   …อาทิตย์หน้า
เมื่อไรจะจัดการกับ project ให้สำเร็จ       …อาทิตย์หน้า
เมื่อไรจะเลิกขี้เกียจ                                  …อาทิตย์หน้า
เมื่อไรจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง        …อาทิตย์หน้า
สรุปเมื่อไรกันแน่!?
เอ้า…ก็บอกว่าอาทิตย์หน้าไง!!!555

ข่าวดี…พรุ่งนี้ก็อาทิตย์หน้าแล้วครับ

Man of the match

andreas-iniesta.jpg

ทุกคนสามารถเป็น Man of the match ได้

วันนี้มา Outing กับบริษัท…

ช่วงทำกิจกรรมมีการเล่นเกมสะสมแต้ม กติกาคือแต่ละคนต้องไปเล่นเกมย่อยๆซึ่งมีทั้งหมด 10 เกม ต้องเล่นชนะอย่างน้อย 6 เกมแล้วบันทึกลงในการ์ด เพื่อไปแลกจิ๊กซอว์เอามารวมกันเป็นรูปใหญ่สำหรับทีม ส่วนคะแนนในการ์ดก็จะถูกนำไปรวมเพื่อคิดคะแนนรวมด้วย

คนส่วนมากสามารถที่ได้ตามกติกา คือชนะ 6 เกม และสุดท้ายทุกทีมก็สามารถต่อจิ๊กซอว์ได้สำเร็จ

แต่ในการประกาศผลนั้นปรากฎว่า มีคนอยู่ประมาณ 30 คนที่เล่นครบทั้งหมด 10 เกม ผู้ดำเนินรายการมีการประกาศรายชื่อเพื่อแจกรางวัลและเรียกกลุ่มนี้ว่า Man of the match

พร้อมชื่นชมว่าเขาเหล่านั้นมุ่งมั่นที่จะทำผลงานเพื่อทีมให้มากที่สุด…

+++++++++++++++++++++++++++++

เราทุกคนสามารถเป็น Man of the match ได้ และจะดีขนาดไหนสำหรับทีมหรือองค์กรถ้าทุกคนร่วมกันมุ่งมั่นเพื่อจะเป็น Man of the match ในสถานการณ์จริง…

วันหยุด…ทำอะไรดี

oia

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงหลายคนก็รู้แล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ส่วนบางคนยังไม่มีแผน…
แต่มี 14 สิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จเขาทำกันในช่วง weekend

กูรูของเรา
https://www.forbes.com/sites/jacquelynsmith-things-successful-people-do-on-weekends/

1)ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนๆ ; โดยเฉพาะคนที่ในวันธรรมดาไม่ค่อยได้ใช้เวลากับคนที่คุณรักสักเท่าไร

2)ออกกำลังกาย ; คล้ายๆกับข้อแรกคือใครที่ช่วงระหว่างสัปดาห์ไม่ได้ออกกำลังกายเลย วันเสาร์-อาทิตย์ก็เป็นโอกาสที่ดี การออกกำลังกายช่วยให้สดชื่นและผ่อนคลาย

3)ทำตามความฝัน ; เพื่อไม่ให้ชีวิตหนักไปทางเรื่องงานอย่างเดียว บางคนที่ผมรู้จักเอาเวลาไปทำธุรกิจซื้อ-ขายของเล่น บางคนไปเรียนสิ่งที่ชอบเพิ่มเติม

4)ไปเที่ยว ; ทำงานหนัก เครียดก็ไปเที่ยวผ่อนคลายบ้าง

5)ปิดการสื่อสาร (Disconnect) ; ให้ชีวิตได้รับการปลดปล่อยจากงาน จาก e-mail หรือข้อความต่างๆ ช่วงเวลาที่แนะนำคือตั้งแต่คือนวันเสาร์ไปจนถึงเที่ยงๆวันอาทิตย์

6)ทำงานอาสา ; อันนี้ออกแนวฝรั่งๆหน่อย แต่จริงๆแล้วในบ้านเราก็มีงานอาสาให้ทำเยอะแยะ จะไปช่วยคนด้อยโอกาส ช่วยเด็ก หรือจะแนว CSR ก็ได้ ซึ่งทำให้เราได้พบปะผู้คนมากขึ้น

7)หลีกเลี่ยงงาน routine ; ถึงแม้จะไม่ค่อยมีอะไรที่ด่วนจะต้องทำมากนัก แต่อย่างน้อยเราควรจัดโปรแกรมอะไรบางอย่างเพื่อที่จะไม่ว่างจนเกินไป แต่ก็ไม่ควรเป็นงาน routine เช่นงานบ้านที่น่าเบื่อ ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็ใช้เวลาให้น้อยที่สุด

8)วางแผน ; การวางแผนช่วยให้เราทำสิ่งต่างๆได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งถ้าระหว่างวันหยุดเราวางแผนเรียบร้อย วันจันทร์ที่มาถึงเราก็พร้อมลุย การวางแผนช่วยให้เรามีทิศทางชัดเจนมากขึ้น

9)เข้าสังคม ; ออกไปทำอะไรๆกับครอบครัว เพื่อนๆหรือในที่ชุมชนบ้าง

10)ปลูกต้นไม้/ทำงานฝีมือ/เล่นเกม/เล่นกีฬา/ทำอาหาร/เสพงานศิลป์ ; กิจกรรมต่างๆเหล่านี้ช่วยเราหลายๆด้าน และโดยเฉพาะคนที่อยู่แต่ในออฟฟิศไม่ได้ออกไปไหนเท่าไร

11)สร้างเครือข่าย (Networking) ; ใช้เวลาทำความรู้จักกับคนมากขึ้น

12)ทบทวนชีวิต ; ใช้เวลาในช่วงวันหยุดกับตัวเอง ชื่นชมสิ่งที่เรามีและทำสำเร็จ ย้อนมองชีวิตตัวเองและพร้อมจะเผชิญกับสิ่งที่ใหญ่ขึ้น

13)ทำสมาธิ ; เคลียร์สมอง ความคิด

14)เพิ่มพลังชีวิต ; เว้นจากเรื่องงานและใช้เวลานี้พักผ่อนอย่างเต็มที่!

เวลาเป็นของมีค่า และสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จช่วงเวลาของวันหยุดก็สำคัญ เราควรที่จะรู้ว่าเราจะทำอะไรก่อนที่เราจะปล่อยเวลาทิ้งเสียไปเปล่าๆกับการนอนเล่นมือถืออยู่เฉยๆ ดูทีวีหรือติดพันอยู่กับการงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ…สุขสันต์วันหยุดครับ

โอกาสในตลาดหุ้น

SET

ตลาดหุ้นมีคำตอบครับ…

ลักษณะของการลงทุนที่สำคัญและทรงพลังอย่างหนึ่งนั่นคือการทบต้นของดอกเบี้ย (Compound Interest)
และในการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อผลการลงทุนคือ เวลา

ดังจะเห็นได้ว่าในการลงทุนเพื่อเกษียณอายุนั้น เราจำเป็นต้องลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อให้กองเงินลงทุนของเรานั้นเติบโตขึ้นตามระยะเวลา ต้องใช้เวลากว่า 30 ปีในการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนระดับ 5% ต่อปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเกษียณอายุ

การลงทุนเพื่อการเกษียณ
https://charoenjit.com/2017/11/22/วางแผนเกษียณ/

ในสภาวะการลงทุนปัจจุบัน ผลตอบแทนที่เราพอจะอ้างอิงได้ จะประมาณนี้
*เงินฝากประจำ 1 ปี ผลตอบแทนประมาณ 2% ต่อปี
*กองทุนตราสารหนี้ ผลตอบแทนประมาณ 5% ต่อปี
*กองทุนหุ้น ผลตอบแทนประมาณ 12% ต่อปี
สังเกตตรงคำว่า ต่อปี นั่นหมายความว่า ในทางทฤษฎีต้องลงทุนผ่านไป 1 ปี จึงจะได้ผลตอบแทนตามนั้น

แล้วถ้าเรามีเวลาน้อย หรือเราอยากได้เร็วกว่านั้นล่ะ…!
ตลาดหุ้นมีคำตอบครับ…

เพราะว่าตลาดหุ้นเปิดทุกวัน (ทำการ) แถมมีหุ้นให้เทรด 400-500 ตัว และแต่ละตัวก็มีการเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ

ทีนี้พอจะเห็นภาพไหมครับว่าเมื่อในตลาดมีหุ้นที่เคลื่อนไหวทั้ง 2% 5% 12% หรือมากกว่านั้น ดังนั้นการเทรดหุ้นก็จะช่วยลดข้อจำกัดด้านเวลาไปได้ และมีโอกาสให้เรา (ในบทความนี้ผมเขียนในมุมมองของ โอกาส ล้วนๆเลยนะครับไม่ได้พูดถึง ความเสี่ยง เลย)

ลองดูสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทางปฏิบัติ…
เริ่มลงทุนด้วยเงิน 50,000 บาท ทำกำไรครั้งละ 5% ได้กำไรมานำไปทบต้นแล้วลงทุนต่อ ตั้งเป้าหมายกำไรทีละ 5%

1 50,000 x 1.05 = 52,500 เป็นเงินต้น + ผลกำไร เมื่อเราได้ผลตอบแทน 5% ต่อครั้ง ย้ำว่า ต่อครั้ง
2 52,500 x 1.05 = 55,125
3 55,125 x 1.05 = 57,881.25
.
.
.
15 98,996.58 x 1.05 = 103,946.41 เมื่อลงทุนสำเร็จมา 15 ครั้ง เงินลงทุนเราเพิ่มเป็น 2 เท่า
16 103,946.41 x 1.05 = 109,143.73
17 109,143.73 x 1.05 = 114,600.92
.
.
29 196,006.46 x 1.05 = 205,806.78 เงินลงทุนเราจะกลายเป็น 4 เท่า เมื่อผ่าน 29 ครั้ง
.
43 388,079.38 x 1.05 = 407,483.35 และเพิ่มเป็น 8 เท่าเมื่อผ่าน 43 ครั้ง
.
.
48 495,298.55 x 1.05 = 520,063.48 และมาครบ 10 เท่าตอนผ่านการลงทุนสำเร็จครั้งที่ 48 โดยไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยเรื่องระยะเวลา

ยกตัวอย่างให้เห็นถึงการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งความจริงแล้วต้องใช้ทั้งฝีมือ พละกำลัง เวลา
แล้วก็มีความเสี่ยงที่จะเจอผลขาดทุนระหว่างทางด้วย ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกครั้ง…

แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาส…

เกษียณ…ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร?

oldman.jpg

หลังเกษียณอยากจะมีเงินใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท…จะต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร?

ช่วงปลายปีนี้หลายคนเตรียมตัวจะซื้อ LTF RMF
จุดประสงค์หลักในการซื้อคือสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี
แต่จริงๆแล้วการลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะใน RMF ช่วยเราในการบรรลุแผนเกษียณได้

การวางแผนเกษียณเกี่ยวข้องกับการวางแผนว่าจะเกษียณอายุเท่าไร จะใช้ชีวิตอย่างไรและที่สำคัญ…
จะต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร?
วันนี้ลองมาคำนวณกัน

ถาม : ตอนนี้อายุ 30 จะเกษียณอายุ 60 แล้วคงจะอยู่ไปจนถึงอายุ 85 (เท่ากับอยู่หลังเกษียณอีก 25 ปี)
หลังเกษียณแล้วอยากจะมีเงินใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท
ตอนอายุ 60 จะต้องมีเงินก้อนเท่าไร แล้วต้องลงทุนยังไงบ้าง

ตอบ : จากการคำนวณพบว่าเราจำเป็นจะต้องมีเงินก้อน ณ ตอนเกษียณอายุ 60 ปี ประมาณ 4,300,000 บาท โดยที่หลังเกษียณเราต้องเอาไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 3% ต่อปีด้วย (กองทุนตราสารหนี้ก็ได้) จะถอนออกมาใช้ได้ปีละ 240,000 บาท (เดือนละ 20,000 นั่นแหละ) ส่วนตลอด 30 ปีจากวันนี้ไปจนถึงเกษียณ จะต้องออมเงินเดือนละประมาณ 5,400 บาท (ปีนึงประมาณ 65,000) เพื่อเอาไปลงทุนให้ได้ผลตอนแทน 5% ต่อปี ซึ่งถ้าเป็น RMF ที่เป็นกองหุ้น สามารถอ้างอิงผลตอบแทนต่อปีประมาณ 12% เลยนะ 5% นี่สบาย

ถามต่อ : สมมติว่ากลัวไม่พอล่ะ 20,000 ตอนนี้อีก 30 ปีข้างหน้าไม่น่าจะพอ อาจจะต้องเตรียมไว้ 40,000 ต่อเดือน…ทีนี้ทำยังไง

ตอบ : ถ้าเป็นเช่นนั้นต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 8.4 ล้านบาท โดยเพิ่มการลงทุนเป็นเดือนละ 10,500 บาท
โดยสมมติฐานอื่นๆยังคงเหมือนเดิม (ก็เบิ้ลเข้าไปนั่นแหละ)

ปัจจัยสำคัญคือถ้าเรา 1)เริ่มออมเร็ว 2)ออมเดือนนึงได้มาก 3)สร้างผลตอบแทนได้สูง (ระวังความเสี่ยงด้วย) 
ถ้าทำได้ก็จะช่วยให้เราบรรลุแผนได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สบายขึ้นด้วย…

ลองไปเล่นกันต่อได้ที่ https://www.set.or.th/happymoney/home.html

ลดความหวาน

americano2
ถ้าเราจะลดความหวานลงสักนิด…

ไม่รู้มีใครเป็นอย่างนี้หรือเปล่า…

แต่ก่อนกินกาแฟไม่เป็น
เวลาไปร้านก็จะสั่งชาหรือน้ำหวานอื่นๆ
พอลองอยากกินกาแฟบ้างก็ต้องเอาที่มันมีครีมมีนมหรือว่าเมนูปั่น
พอเริ่มกินเป็นก็เอาละ สั่งกาแฟแต่ขอติดหวานนิดๆ ถ้าชงเองก็น้ำตาลหลายช้อนหน่อย
พอติดแล้วที่นี้สั่งไม่ใส่น้ำตาลละ ชงเองก็ใส่นิดเดียวพอ

++++++++++++++++++++++++++++++++++

หลายคนชอบกินหวานจัด ผมด้วย ซึ่งก็รู้กันว่าไม่ดีต่อสุขภาพ
มีคำแนะนำเกี่ยวกับการกินหวาน (จริงๆก็ทุกรสที่เป็นรสจัด) ว่ามันเป็นความรู้สึกของเรา
อาหารส่วนมากโดยเฉพาะที่ซื้อกินไม่ได้ทำเอง ก็ปรุงจัดอยู่แล้ว
ถ้าเราจะลดความหวานลงสักนิด…
เช่นกินก๋วยเตี๋ยวถ้าเคยเติมน้ำตาลสองช้อน ก็ใส่หนึ่งช้อนหรือไม่ใส่เลย
หรือจะแบบกาแฟไม่ใส่น้ำตาลก็ได้
แรกๆอาจจะยังไม่ชิน แต่ผ่านไปสักพัก เราก็กินได้ปกติ ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร
อันนี้ผมลองแล้วเป็นอย่างเขาบอกจริงแฮะ

ลองลดหวาน เพื่อสุขภาพกันครับ