เค้าโครงจากเรื่องจริง…
ชายคนหนึ่งจะออกไปทำธุระแต่เช้า ก็เตรียมตัวออกจากบ้านตามปกติ
สวมเสื้อเชิ้ต กางเกงสแลคขายาวสีดำ
ในมือมีกระเป๋าถือสีดำใส่เอกสาร กระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋าหลังด้านขวา
เตรียมเศษเหรียญไว้ 10 บาทสำหรับขึ้นรถเมล์อยู่ในกระเป๋าหน้าด้านขวา
แล้วในกระเป๋าหน้าด้านก็มีลูกอมอีกสองเม็ด
ช่วงที่เขารอรถเมล์นั้นเป็นช่วงตี 5 เล็กน้อย ฟ้ายังไม่สว่าง คนก็ยังไม่มี
ทันใดนั้น!!! มีชายอีกคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซด์มาจอดเทียบ
ส่งเสียงขู่พร้อมบอกให้ส่งของมีค่าให้ นี่มันโจรชัดๆ
พูดไม่ทันขาดคำ โจรก็ดึงกระเป๋าถือสีดำจากมือชายคนนั้น
พร้อมๆกับที่เขาหยิบเหรียญ 10 บาทพร้อมลูกอมส่งให้
….โจรไม่ได้สนใจกระเป๋าสตางค์ที่ใส่อยู่ในกระเป๋าหลังเลย
….อาจด้วยกระเป๋าถือสีดำของเขานั้นดูสวยและเป็นทางการ
….โจรเลยได้ไปแค่กระเป๋าและเอกสารในนั้น บวกเงินสิบบาทและลูกอม
++++++++++++++++++++++++
โจรลงทุนเสี่ยงสุดๆ กลับได้ไปแค่เงิน 10 บาทและลูกอม 2 เม็ด
มองเผินๆอาจรู้สึกว่า ก็ไม่ได้เสียอะไร แถมได้ไป 10 บาทด้วย
แต่จริงๆแล้วมีความเสี่ยงสูงมากคือถ้าถูกจับ
โอกาสที่โจรจะได้เงินจากการปล้นครั้งนี้ คือ Upside risk ไม่สูงมาก
เพราะคนมารอขึ้นรถไปธุระจะขนเงินสดมาสักเท่าไร
ในขณะที่ความเสี่ยงของการลงทุนปล้นครั้งนี้ หรือ Downside risk เยอะมาก
คือโดนจับ!!!
เปรียบเทียบแล้วไม่ค่อยคุ้มเท่าไร…
++++++++++++++++++++++++
เหมือนการเก็งกำไรในหุ้นบางกรณี
หุ้นเล็กๆ ไม่มีปัจจัยพื้นฐาน วิ่งฉวัดเฉวียนในตลาด
เข้าไปเก็งกำไรเร็ว ก็อาจจะได้เล็กน้อย Upside risk ไม่เท่าไร
แต่ถ้าพลาดขึ้นมา โอกาสขาดทุน พอร์ตเสียหายมีมาก Downside risk สูง
ตัวอย่างของโจรคนนี้น่าจะสะท้อนความเสี่ยงในการเก็งกำไรในหุ้นได้ครับ